Page 71 - กำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม นาโนเทคโนโลยี เล่ม๗
P. 71
มอก. 2691 เลม 7–2559
่
ี
ั
ี
่
ี
้
ิ
ี
ิ
ื
การวัดพืนทผวแอกทฟของอนุภาคทรงเรขาคณตทมลกษณะคลายกัน (fractal-like particle) หรออนุภาคท ่ ี
่
ี
็
ี
เปนทรงกลมทมขนาดเลกกวา 100 nm ดวย DC พบวามความสมพันธกับการวัดพืนทผวทางเรขาคณิต ดวย
ี
ิ
่
้
ั
ี
ื
้
ื
่
่
ี
่
ั
ื
ื
ิ
ี
เครองวิเคราะหการเคลอนตวทางไฟฟา หรอ DMAS และพนทผวประมาณการท่วัดจาก TEM ความทาทาย
ํ
ั
ิ
้
สาหรบการใชวิธวัดดวยเครองอดประจุแบบแพร คอ เมออนุภาคมีขนาดใหญกวา 100 nm คาพืนทผวทวัดได
่
ื
่
ื
่
ั
่
ี
ี
ื
ี
ั
ี
ึ
่
ิ
้
่
ํ
ิ
่
ี
ั
อาจมคาทตากวาคาความเปนจรง ซงจําเปนตองศกษาตอไปวาระดบทมการรายงานผลผดพลาดนนสงผล
่
ี
ี
ึ
ุ
ั
ี
ั
ั
กระทบตอความสมพันธในดานการรบสมผสวัสดุนาโน และผลกระทบตอสขภาพอยางมนัยสําคัญหรือไม
ั
ิ
ื
่
่
ื
เครองมอใหมหลายชนดอาศัยหลกการการอดประจุใหกับอนุภาคในอากาศเพือจําลองปรมาณวัสดุทแสดง
ี
ั
่
ั
ิ
ั
่
ึ
คาพืนทผวรบสมผสทสะสมในบรเวณทอลม หลอดลม และถงลมในปอด ซงแตกตางจากเครองมอทกลาว
่
ุ
ิ
ื
ี
่
้
ี
ั
ี
ิ
่
่
ั
ื
้
ั
่
ิ
้
ี
่
ี
มากอนขางตนทวัดพืนทผวทงหมด เครืองมือในรูปแบบใหมทํางานโดยดูดอนุภาคทีลอยอยูในอากาศผาน
่
่
ู
ื
ี
ไซโคลนคดแยกอนุภาคทีมขนาดใหญกวา 1 μm สวนอนุภาคทีเหลอทผานเขาสเครองและผานเขาสบรเวณ
่
ื
่
ั
ี
่
่
ิ
ู
ุ
ั
ํ
ี
ุ
ั
อดประจุ และชดคดแยกอนุภาค ตามลาดับ ในการใชงานสามารถปรบชดคดแยกอนุภาคใหมคาศกยไฟฟา
ั
ั
ั
ุ
ู
่
่
ั
ื
ี
ในระดับตาง ๆ เพือใหมการเก็บตวอยางอนภาคทีมประจุสง และอนุภาคทมการเคลอนททางไฟฟา (ขนาด
ี
ี
่
่
ี
่
ี
ี
่
ี
ี
ิ
่
ี
พืนทผว) สอดคลองกับอนุภาคสวนทมการสะสมในบรเวณตาง ๆ ของปอด หรอทมการหายใจเขาไปได
ิ
่
ื
้
ี
้
และวัดระดบประจุไฟฟาของอนุภาคทีผานทะลุเขาไปดวยมิเตอรไฟฟา วิธีการใหมนีมีศักยภาพในการวัด
ั
่
ี
ี
ั
่
ั
ื
้
คาทสมพันธกับพืนทผวรบสมผสของอนุภาคในอากาศทสะสมในปอด โดยเครองทมจําหนายทางการคาใน
่
่
ี
่
ี
ี
่
ิ
ั
ั
่
่
ี
ปจจุบนเปนรนทใชตรวจวัดในบรเวณปฏบตงาน การสอบเทยบเครองทาไดทสภาวะอางองหนึงเทานัน เชน
ี
ิ
ื
ั
่
ิ
ิ
ี
ิ
ั
้
่
ุ
ํ
ี
ู
ั
ั
ิ
็
ู
ิ
ู
ี
การหายใจของผปฏบตงานผานทางจมก โดยผปฏบตงานมระดับกิจกรรมของรางกายเพยงเลกนอย การสอบ
ิ
ิ
ั
ิ
ื
่
ิ
ิ
เทยบกับสภาวะอางองไมสามารถรวมปจจัยอน ๆ เขารวมดวย เชน ระดับกิจกรรมของผปฏบตงาน อายุ เพศ
ี
ู
ึ
ื
่
หรอการมีโรคทางปอดรวมดวยซงอาจสงผลตอระดบการสะสมของอนุภาคในปอด และเปนตัวแทนขอมูล
ั
้
ั
ู
่
ิ
ิ
ั
ั
ี
ั
ิ
ู
่
ิ
ี
ิ
การรบสมผสทแทจรงของผปฏบตงานทปฏบตหนาททแตกตางกันไมได ดังนันการนําขอมลไปใชจึงควร
ั
ี
่
ี
่
ั
ื
่
ื
ิ
ื
ิ
ดําเนินการดวยความระมดระวัง การเปรยบเทยบประสทธภาพของเครองมอกับเครองมออน ๆ ทําไดโดย
ื
่
ี
ี
่
ื
ี
่
่
ิ
การคานวณพืนทผวของอนุภาคทีสะสม (ในแบบจําลองของปอดแบบเดียวกัน) ทไดจากการวัดการกระจาย
่
้
ํ
ี
ี
่
ิ
ตวของขนาดอนุภาคดวยเครองสเปกโทรมเตอรแบบวัดการเคลอนทของอนุภาคในสนามไฟฟา (electrical
่
ื
ื
่
ั
ี
ิ
ั
ี
ี
ึ
mobility spectrometer) ตวอยางผลการศกษาการเปรยบเทยบการวัดอนุภาคไดออกทลซบาเคต (dioctyl
่
ี
ื
sebacate) โซเดยมคลอไรด หรอเขมาดีเซล พบวาใหผลทสอดคลองกัน และไมพบวาระดับกิจกรรมหรือ
ี
ั
เพศของผทดสอบมผลตอคาการสะสมและระดบการรบสมผส แตระดับการรบสมผสมคาความสมพันธกับ
ู
ั
ั
ั
ั
ั
ั
ี
ั
ี
ความถของการหายใจ และปรมาณการหายใจ ดังนันระดับการรบสมผสเขาสรางกายอนุมานไดจากการวัด
ู
ี
่
ั
้
ั
ั
ิ
่
่
ี
ั
ั
ั
การรบสมผสทเปนผลมาจากรูปแบบการหายใจ ซึงใชในการวิเคราะหระดับการรับสัมผัสเขาสูรางกาย
ั
ู
ํ
ั
ิ
ํ
่
ั
ี
สาหรบผปฏบตงานแตละคนได ในปจจุบน งานวิจัยระบุวาปจจัยทใชสอบเทยบสามารถนามาใชในการ
ี
ิ
ดัดแปลงเครองมอใหเหมาะสมกับพฤติกรรมการหายใจ เพศ และอายุ มากกวาการใชสภาวะอางอง
ื
่
ิ
ื
-69-